ดังนั้น การรู้สึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพุทธศาสนาจึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าเธอจะรู้สึกยินดีหรือยินร้ายกับพุทธศาสนาก็ไม่ใช่ประเด็น เราจะไม่ใส่ใจ ไม่ว่ากับอะไรทั้งสิ้น พุทธศาสนาไม่ได้ดีหรือเลว เราแค่ทำในสิ่งที่สมควรทำเท่านั้น นี่ละคือพุทธศาสนา แน่นอนบางครั้งจะต้องมีการให้กระตุ้นบ้าง
แต่การกระตุ้นก็เป็นแค่การกระตุ้น ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของการปฏิบัติ มันเป็นแค่ยาเท่านั้น เมื่อเราเริ่มท้อแท้ เราจะต้องการยา เมื่อเรารู้สึกกระชุ่มกระชวย เราก็ไม่ต้องการยา เธอจะต้องไม่เข้าใจผิดว่ายาคืออาหาร บางครั้งยาเป็นสิ่งจำเป็น แต่อย่าปล่อยให้จำเป็นจนถึงขั้นกลายเป็นอาหารของเรา
ดังนั้น ในวิธีการฝึกสี่แบบของรินไซ แบบที่ดีที่สุดคือ การไม่ตีความให้กับลูกศิษย์คนไหนทั้งสิ้น และไม่กระตุ้นหรือให้กำลังใจเขา ถ้าเราคิดว่าร่างกายคือตัวตนของเรา คำสอนก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าของเรา บางครั้งเราพูดถึงเสื้อผ้าของเรา บางครั้งเราก็พูดถึงร่างกายของเรา แต่ทั้งร่างกายหรือเสื้อผ้าไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา ตัวของเราคือกิจกรรมใหญ่ เราเพียงแค่แสดงออกถึงอณูที่เล็กที่สุดของกิจกรรมใหญ่เท่านั้น เท่านั้นเอง
ดังนั้น เราจะพูดถึงตัวเราก็ได้ ไม่เป็นไร แต่จริงๆ แล้วไม่มีความจำเป็นเลยที่จะพูดถึงตัวเอง เพราะก่อนที่จะเปิดปาก เราได้แสดงออกถึงชีวิตใหญ่ รวมถึงตัวเราเองด้วยอยู่แล้ว ดังนั้น จุดประสงค์ในการพูดถึงตัวเราก็เพื่อที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดที่มี เมื่อเราไปยึดติดกับรูปแบบหรือสีสันชั่วคราวของกิจกรรมใหญ่เท่านั้น การพูดถึงตัวเราและกิจกรรมของเราเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เราจะไม่ทำอะไรที่ผิดพลาดเกี่ยวกับมัน ดังนั้น การพูดถึงตัวเรา จริงๆ แล้วก็คือ การลืมตัวเรานั่นเอง
ท่านโดเกน เซนจิ กล่าวว่า การศึกษาพุทธศาสนาคือการศึกษาตัวเอง และการศึกษาตัวเราก็คือการลืมตัวเอง เมื่อเธอยึดติดกับการแสดงออกชั่วคราวของธรรมชาติที่แท้จริงของเธอ การพูดถึงศาสนาพุทธเป็นสิ่งจำเป็น หาไม่แล้วเธอจะคิดว่าการแสดงออกขั่วคราวคือความจริง แต่มันไม่ใช่ กระนั้นก็ตาม ขณะเดียวกันก็ใด้วย เป็นเวลาชั่วขณะหนึ่งที่คือความจริง ชั่วอณูของเวลาที่เล็กจิ๋วที่สุดเท่านั้น มันจะไม่ใช่ความจริงเสมอไป เพียงชั่วขณะต่อมา ก็ไม่ใช่แล้ว
สนับสนุนโดย จุดอ่อนบาคาร่า