ในช่วงนี้ที่หน้ากากอนามัยเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปเป็นอย่างมากได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ออกมาหากินกับความต้องการของคนไทยและความเสี่ยงในการติดโรคไวรัสโคโรน่าโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวนสามคนซึ่งเมื่อไปถึงที่บ้านก็พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยที่มีการใช้แล้วและมีการซักตากให้แห้งแล้วนำมารีดบรรจุเข้าถุงพลาสติกอย่างดีแล้วนำออกไป
จำหน่ายโดยมีการจำหน่ายให้กับคนอื่นในราคาเพียงแผ่นละ 3 บาทซึ่งดูแล้วเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีแต่ที่จริงแล้วการนำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วมาซักแล้วนำออกไปจำหน่ายใหม่นั้นถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคหวังหากินกับคนที่ต้องการที่จะใช้หน้ากากอนามัยในช่วงนี้
มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีการเข้าไปทำการจับกุมบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีข่าวออกมาว่ามีการผลิตหน้ากากอนามัยมือสองออกมาจำหน่ายให้กับลูกค้าเมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุที่อยู่อำเภอวิหารแดงจังหวัดสระบุรีพบว่ามีหน้ากากอนามัยที่ถูกใช้งานแล้ววางอยู่รอบรอบบริเวณบ้านเป็นจำนวนมากโดยเมื่อไปถึงในบริเวณบ้านพบมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณหกคนกำลังทำการช่วยกันซักหน้ากากอนามัย
และนำมารีดบรรจุหีบหอเพื่อเตรียมนำจำหน่ายหนึ่งในหกคนนั้นเป็นลูกชายของเจ้าของบ้านซึ่งให้การว่าตอนนี้แม่ของตนไม่ได้อยู่บ้านเดินทางไปต่างจังหวัดแต่แม่เป็นคนสั่งการไปหาซื้อหน้ากากอนามัยมาจากร้านขายของเก่าแล้วนำมาให้ตนและเพื่อนเพื่อนทำการซักแล้วรีดเพื่อนำออกไปจำหน่ายอีกรอบหนึ่งโดยพวกตนจะได้ค่าทำหน้ากากอนามัยขึ้นมาใหม่ชิ้นละ 1 บาท
ได้ในแต่ละวันแต่ละคนจะได้เงินในการทำหน้ากากอนามัยถึงวันละ 300 บาทถึง 400 บาทเลยทีเดียวซึ่งตั้งแต่เริ่มทำหน้ากากอนามัยมือสองออกไปขายสามารถขายได้ประมาณ 200,000 ชิ้นไปแล้วโดยมีการนำไปโพสต์ขายผ่านทาง Facebook และมีผู้คนสนใจสั่งซื้อไปเป็นจำนวนมากโดยทางผู้จัดทำอ้างว่ากระทำการไป
โดยที่ไม่รู้ว่าการนำหน้ากากอนามัยมาซักแล้วนำออกไปขายใหม่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเพียงแค่เห็นว่าการทำแบบนี้จะได้เงินเร็วเพราะว่ามีคนสนใจซื้อหน้ากากอนามัยปิดกันเป็นจำนวนมากและตอนนี้หน้ากากอนามัยก็ขาดแคนจึงอยากจะช่วยเหลือประชาชนให้มีหน้ากากอนามัยใช้จึงนำหน้ากากอนามัยใช่แล้วมาซักทำความสะอาดแล้วนำออกไปจำหน่ายใหม่ในราคาที่ถูกซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการตรวจสอบและขยายผลต่อไปว่ายังมีใครร่วมกระบวนการอยู่อีกหรือไม่
ได้รับการสนับสนุนโดย เว็บคาสิโนสด