คำชี้แจงของกรมสรรพากร เชื่อว่าหลายคนคงได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับกระแสดราม่าของแม่ค้าขายของออนไลน์คนหนึ่งซึ่งระบุว่าตนเองนั้นขายของผ่านโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลและมีการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากทางกรมสรรพากรโดยยอดที่ส่งมาเรียกเก็บนั้นสูงเกือบ 1 แสนบาทเลยทีเดียวซึ่งกระแสดราม่านี้ทำให้โลกออนไลน์นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งนั้นก็ยังไม่ต้องการที่จะให้กรมสรรพากรมีการเรียกเก็บภาษีกับประชาชนที่ค้าขายในช่วงนี้เพราะการค้าขายนั้นค่อนข้างฝืดเคืองนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัส covid มาในขณะเดียวกันก็มีอีกฝั่งหนึ่งมองว่าการเรียกเก็บภาษีนั้นเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนและแม่ค้าคนดังกล่าวที่มีการถูกเรียกเก็บภาษีเป็นจำนวนเงินเกือบแสนบาทนั่นแสดงว่ามีการค้าขายที่มีรายได้ที่ดีมากเลยทีเดียว
ยังไงถ้าตามกระแสดราม่านั้นไม่ได้มีแค่มาค้ารายนี้รายเดียวที่ออกมาเปิดเผยเพราะมีหลายคนที่ได้รับเอกสารจากทางกรมสรรพากรส่งไปที่บ้านมีการให้ไปจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์นี้รุนแรงมากจนในที่สุดนั้นทางเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรก็จำเป็นที่ต้องออกมาชี้แจงกับเรื่องราวการเรียกเก็บภาษีที่เกิดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้มีการให้ข้อมูลว่าสำหรับหญิงสาวที่ได้รับการส่งเอกสารไปให้ที่บ้าน ยอดจำนวนเกือบ แสนบาทนั้นไม่ได้เป็นการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแต่เป็นการเรียกเก็บภาษีปัจจุบันของปีพศ2563 เนื่องจากว่าในปีนี้ได้มีการเลื่อนการจ่ายภาษีออกไป
ซึ่งโดยปกติแล้วกรมสรรพากรจะให้ประชาชนนั้นมีการจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลเข้ามาไม่เกินเดือนมีนาคมแต่ในปีนี้รัฐบาลได้มีการขยายระยะเวลาการจ่ายภาษีของประชาชนออกไปจึงมีการเรียกเก็บภาษีล่าช้าและกรมสรรพากรเองมีการเรียกเก็บภาษีกับประชาชนทุกคนโดยจะมีเงื่อนไขของการเรียกเก็บภาษีอยู่แล้วว่าจะต้องมียอดเงินเท่าไหร่ถึงจะต้องเสียภาษี
ซึ่งแม่ค้าคนดังกล่าวที่มีการออกมาพบผ่านทาง Social Media นั้นมียอดการขายของที่เยอะมากเพราะเรื่องจากการขายของนั้นทางกรมสรรพากรมีตังค์ตั้งเอาไว้แล้วว่าจะต้องมีการขายมีรายได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปีถึงจะไม่ต้องเสียภาษีแต่แม่ค้ารายนี้ขายได้เยอะมากจึงทำให้ถูกยอดเรียกเก็บภาษีนั้นเกือบหลักแสนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการเสียภาษีนั้นทั้งกรมสรรพากรไม่ได้มีการเรียกเก็บเฉพาะคนที่มีการนำร้านค้ามาขายในโครงการของรัฐบาลอย่างเช่นโครงการคนละครึ่งหรือโครงการเราชนะรวมถึงโครงการเรารักกันอย่างเดียวไม่แต่ว่าจะเป็นทุกร้านค้าที่มีการขายของไม่ว่าจะเป็นขายของหน้าร้านหรือขายของออนไลน์ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามียอดเกินหกหมื่นบาทขึ้นไปก็ต้องมีการเสียภาษีทุกร้านเช่นเดียวกัน
สนับสนุนโดย. gclub ผ่านเว็บ